ในวัยเด็กเรามักจะมีเพื่อนเล่นในจินตนาการ แต่จะเป็นยังไงถ้าหากเพื่อนเล่นของเรารออยู่ในความฝัน เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับตัวผู้เขียนเอง เรื่องราวของเด็กชายปริศนาที่มักจะมาเล่นด้วยในความฝัน และคอยปกป้องเด็กหญิงจากสิ่งชั่วร้าย ทำให้เด็กหญิงรู้สึกอบอุ่นหัวใจทุกครั้งที่ได้พบเจอ จนอยากให้เด็กชายปริศนามีตัวตนจริงๆบนโลกใบนี้
เด็กชายปริศนาตัวเล็กๆ ที่ช่วยชีวิตเด็กหญิงจากชายชุดดำดวงตาสีแดง
เด็กชายปริศนาที่เข้ามาช่วยเด็กหญิงได้ทันเวลาจากฝันร้าย ในความฝันนั้นชายชุดดำพยายามที่จะพาเด็กหญิงก้าวข้ามเส้นแบ่งเขตแดนสีแดงเรืองแสง ที่ทอดยาวอยู่บนพื้น เข้าไปยังดินแดนที่มืดมิด แต่เด็กชายปริศนาเข้ามาช่วยได้ทันเวลาในเสี้ยววินาที ทำให้เด็กหญิงตกใจตื่น นี่เป็นเรื่องราวหนึ่งที่แปลกประหลาดไม่น้อย อีกหนึ่งเรื่องราวที่จะหยิบยกมาเล่าในวันนี้ เป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่เด็กชายปริศนาแวะเวียนมาหาในความฝัน ในวันนั้นเด็กหญิงได้พูดกับคนในครอบครัวว่าอยากกินขนมชนิดหนึ่ง ตัดภาพไปที่ในความฝัน เด็กหญิงยืนอยู่ท่ามกลางความมืด แต่มีที่หนึ่งที่มีแสงไฟสว่าง เด็กหญิงค่อยๆเดินเข้าไปตามแสงสว่าง จนพบกับเด็กชายปริศนาที่กำลังนั่งทำขนมที่เด็กหญิงอยากกิน เด็กชายปริศนาพูดขึ้นว่า “มากินด้วยกันสิ” เด็กหญิงดีใจและรีบเข้าไปหาเด็กชายปริศนา ในขณะที่กำลังสนุกและมีความสุขนั้น เสียงเรียกของคุณยายเรียกเด็กหญิงให้ตื่น เด็กหญิงได้ยินเสียงคุณยายจึงบอกลาเด็กชายปริศนาในความฝันว่า “ต้องไปแล้วนะไว้พบกันใหม่” ราวกับรู้ว่าเรื่องราวในตอนนี้เป็นเพียงแค่ความฝัน
เด็กชายปริศนามีตัวตนจริงหรือไม่ เป็นใครและมาจากที่ไหน
วันเวลาผ่านไปอย่างเรียบง่ายและธรรมดาในทุกๆวัน เด็กหญิงไม่เคยนึกสงสัยถึงที่มาและตัวตนของเด็กชายปริศนา จนเวลาล่วงเลยไปเด็กหญิงเติบโตขึ้น และนานเท่าไหร่ไม่รู้ที่ไม่พบเด็กชายปริศนาในความฝันแล้ว จนเด็กหญิงเผลอลืมไปว่าเคยมีเพื่อนวัยเด็กในความฝัน อยู่ๆเด็กชายปริศนาก็หายไปจากความฝัน การจากลาที่ไม่มีการบอกลา ในวันนี้เด็กหญิงเติบโตขึ้น และย้อนนึกถึงความทรงจำในวัยเด็ก และนึกถึงเด็กชายปริศนาขึ้นมา ในตอนนั้นครอบครัวของเด็กหญิงมีการทำมาค้าขายเล็กๆ และครอบครัวของเด็กหญิงมีความเชื่อในสิ่งลี้ลับที่ช่วยดลบันดาลให้กิจการรุ่งเรือง เราอาจเคยได้ยินในเรื่องของการเลี้ยงกุมาร แต่ก็ฟันธงไม่ได้ทีเดียวว่าเด็กชายปริศนาคือกุมารหรือไม่ เพราะด้วยลักษณะการแต่งตัวที่ดูเป็นเด็กธรรมดา หรืออีกเรื่องราวหนึ่งที่พอจะสันนิษฐานได้ แม่ของเด็กหญิงได้บอกเรื่องราวหนึ่งให้แก่เด็กหญิงได้รับรู้ ว่าเด็กหญิงเคยมีน้องชายแต่สูญเสียไปตั้งแต่ยังเล็ก จนเด็กหญิงจำความไม่ได้ ในทุกวันนี้ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเด็กชายปริศนาเป็นใครและมาจากที่ไหน
เด็กชายปริศนาที่หายไปจากความฝันโดยไม่มีการบอกลา จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป
เด็กชายปริศนายังคงเป็นปริศนาจนถึงทุกวันนี้ หากได้รู้ตัวตน ที่มาที่ไปหรือได้บอกลากันสักนิดคงไม่เกิดความค้างคาใจ สรุปไม่ได้ว่าเด็กชายปริศนามีตัวตนจริงหรือไม่ หรือเป็นเพียงแค่จินตนาการของเด็กหญิงเพียงเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเด็กชายปริศนาจะอยู่ในความทรงจำของเด็กหญิงตลอดไป
อ้างอิง
[1] kalyanamitra. (October 27,2020). ความฝันและจิตใต้สำนึก. Retrieved from kalyanamitra