เต้นฮิปฮอป รูปแบบการเต้นที่เน้นการเคลื่อนที่ ที่ลื่นไหล ผสมผสานเข้ากับจังหวะที่หนักแน่น กระฉับกระเฉง สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นอิสระ และความคิดสร้างสรรค์ของผู้เต้นได้
จุดสตาร์ทของวงการ เต้นฮิปฮอป
การ เต้นฮิปฮอป [1] มีจุดสตาร์ทขึ้นมาในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ในเมืองนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มวัยรุ่นเชื้อสายแอฟริกัน – อเมริกัน – ละตินอเมิริกาในย่านบร็องซ์ ในช่วงนั้น บร็องซ์เป็นย่านแออัดที่มีอัตราการเกิดอาชญากรรมสูง วัยรุ่นในย่านนี้ จึงหากิจกรรมเพื่อผ่อนคลายและแสดงออก
โดยกิจกรรมหนึ่งที่ได้รับความนิยมคื อการรวมตัวกันในบล็อกพาร์ตี (Block party) เพื่อฟังเพลง พร้อมเต้นรำ ซึ่งการ เต้นฮิปฮอป เริ่มต้นจากการเต้นแบบฟรีสไตล์ (Freestyle) เป็นการเต้นตามจังหวะเพลง ไม่มีท่าเต้นตายตัว วัยรุ่นในบร็องซ์มักเต้นตามจังหวะเพลงดิสโก้หรือฟังก์
เต้นฮิปฮอป รูปแบบที่ได้รับความนิยมตลอดกาล
- บีบอย (Breakdance) [2] เน้นการทรงตัว การพลิกตัว และการกระโดด มักใช้ท่าทางที่ท้าทาย แสดงถึงศักยภาพความแข็งแกร่ง
- ป๊อปปิ้ง (Popping) การกระตุกกล้ามเนื้ออย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง มักใช้ท่าทางที่แสดงถึงความสนุกสนาน มีชีวิตชีวาเพิ่มมากขึ้น
- แนวล็อค (Locking) การเคลื่อนไหวที่ลื่นไหลและสง่างาม โดยอาศัยทักษะทางจังหวะ ลีลา เช่น การย่อตัว การกระโดด การบิดตัว เป็นต้น
ศิลปินชื่อดังระดับโลก ผลงานเป็นที่ประจักษ์
- ไมเคิล แจ็กสัน (Michael Jackson) ราชาเพลงป็อปผู้ทรงอิทธิพลของโลก ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ปฏิวัติวงการการ เต้นฮิปฮอป ด้วยท่าเต้นที่แปลกใหม่ น่าสนใจ เช่น ท่า Moonwalk และท่า Antigravity lean
- บีเจ มาร์เทล (B-Boy Martel) หนึ่งในตำนานของวงการ breakdance เจ้าของท่าเต้นที่มีชื่อเสียงอย่าง windmill และ six-step
- วู แทง แคลน (Wu-Tang Clan) กลุ่มแร็ปเปอร์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา เป็นที่รู้จักจากท่าเต้นที่แข็งแรงและพลิ้วไหว
- ลาเบล บี บอยส์ (The L.A. Boyz) กลุ่ม Breakdance ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา เป็นผู้คิดค้นท่าเต้นที่เป็นเอกลักษณ์อย่าง Worm และ Robot
- เจมส์ บราวน์ (James Brown) ราชาเพลงโซลผู้ทรงอิทธิพลของโลก ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้บุกเบิกการ เต้นฮิปฮอป ด้วยท่าเต้นที่แข็งแรง ซ่อนพลังเต็มไปหมด
เปรียบเทียบ เต้นฮิปฮอป และ บัลเลต์
บัลเลต์ และ เต้นฮิปฮอป เป็นสองรูปแบบการเต้น ที่ได้รับความนิยมกันอยู่แล้ว แต่ในบางเรื่องราวจะมีความแตกต่างกันไปตามกลุ่มเป้าหมาย แต่คุณอยากเป็นนักเต้นในรูปแบบใด ก็สามารถหาข้อดี – ข้อเสีย ของแต่ละรูปแบบได้ในข้อถัดไป
ข้อดี-ข้อเสีย ในการ เต้นฮิปฮอป
ข้อดี
- เป็นการออกกำลังกายที่สนุกสนานและกระฉับกระเฉง
- ช่วยพัฒนาทักษะทางร่างกาย ให้มีความแข็งแรง ความยืดหยุ่น
- ช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม เหมือนเป็นการสื่อสารร่วมกันหลายๆ คน
- ส่งเสริมความมั่นใจในตนเอง ให้นักเต้นสามารถแสดงออกถึงตัวตนได้อย่างอิสระ
ข้อเสีย
- อาจทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ เช่น ปวดข้อ ปวดกล้ามเนื้อ อ็นอักเสบ
- ต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวกกันน็อค ถุงมือ สนับข้อต่อ
- หากต้องการเต้นฮิปฮอปได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจต้องใช้การฝึกฝนอย่างหนักและสม่ำเสมอ
ข้อดี-ข้อเสีย ในการเต้น บัลเลต์
ข้อดี
- ประโยชน์ทางด้านร่างกาย ช่วยให้ระบบไหลเวียนโลหิต และหัวใจแข็งแรง
- ประโยชน์ทางด้านจิตใจ พัฒนาทักษะการคิดสร้างสรรค์ ลดความเครียด
- ประโยชน์ทางด้านสังคม ช่วยให้เรียนรู้การทำงานเป็นทีม รู้จักการแบ่งปัน
ข้อเสีย
- ต้องใช้ความพยายาม และความอดทนเป็นอย่างมาก เพื่อจะเป็นนักเต้นที่ดี
- ค่าเรียนบัลเล่ต์อาจมีราคาสูง โดยเฉพาะหากเรียนในโรงเรียนสอนเต้นบัลเลต์ที่มีชื่อเสียง
- ใช่ว่าการเต้นรูปแบบนี้ จะเหมาะกับทุกคน ฝึกไม่ดี อาจได้รับบาดเจ็บได้ง่าย
สรุป เต้นฮิปฮอป
เต้นฮิปฮอป เป็นการเต้นที่ทรงพลัง วัยรุ่นในยุคนี้ ส่วนมากก็ชอบนัดพบกันมาเต้น เหมือนเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้น ได้พบเจอเพื่อนใหม่หลากหลายรูปแบบ เรียกว่าเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรมองข้าม หากใครสนใจลองไปหาสถานที่เต้นดู
อ้างอิง
[1] wikipedia. (November 26, 2023) ฮิปฮอป Retrieved from wikipedia
[2] wikipedia. (September 24, 2022) บีบอย Retrieved from wikipedia