การ เสริมคาง เป็นศัลยกรรมความงามส่วนหนึ่ง ที่ช่วยแก้ปัญหาในเรื่องของความสมส่วนของรูปหน้า ที่เป็นจุดฮิตในการทำศัลยกรรมรองลงมาจากการเสริมจมูก หรืออาจเป็นการทำควบคู่กัน โดยการเสริมคางสามารถแก้ปัญหาหน้าสั้น ที่เกิดจากคางสั้นได้ ซึ่งการเสริมคางมีส่วนช่วยเพิ่มความยาวของใบหน้า และเพิ่มมิติให้กับใบหน้าได้
การที่มีคางที่ได้สัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้ใบหน้าดูสวยงามมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยธรรมชาติของคนเอเชียแล้ว จะมีลักษณะของคางที่ค่อนข้างสั้น ไม่ได้สัดส่วนที่เหมาะสม และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หน้าดูกลม ดูบาน การ เสริมคาง จึงเป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสมที่สุด
เสริมคาง มีการใช้ซิลิโคนแบบไหนบ้าง ?
การ เสริมคาง เป็นการเสริมโดยใช้ซิลิโคนที่มีรูปร่าง/รูปทรง ที่มีการออกแบบมาสำหรับเสริมในคางโดยเฉพาะ ซึ่งก็เป็นซิลิโคนเกรดการแพทย์ ที่อยู่ภายในร่างกายได้ตลอดชีวิต เช่นเดียวกับซิลิโคนเสริมจมูก โดยการเสริมคางก็จะมีซิลิโคนทั้งแบบสำเร็จรูป และซิลิโคนแบบแท่งที่แพทย์สามารถเหลาออกแบบได้เอง
แต่ในปัจจุบันนี้ การใช้ซิลิโคนแบบเหลาเองไม่เป็นที่นิยมมากนักในการทำคาง ซึ่งนอกจากการเสริมคางด้วยซิลิโคน ยังมีการเสริมคางโดยการย้ายกระดูกบริเวณส่วนเกินของคาง [1] ของตัวคนไข้เอง มาเสริมในบริเวณที่ต้องการแก้ แต่ยังไม่เป็นที่นิยมมากนัก เนื่องจากใช้ระยะเวลาพักฟื้นนาน และอาจมีความเจ็บที่มากกว่า
ซิลิโคนทรงขาสั้น
เป็นซิลิโคนที่ช่วยเสริมในส่วนของปลายคาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหน้าสั้น ที่ต้องการเพิ่มความยาวของปลายคางโดยเฉพาะ ซิลิโคนแบบขาสั้นมีข้อจำกัดสำหรับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่ หรือเนื้อคางน้อย ซิลิโคนทรงนี้จึงไม่เหมาะกับการเสริมในทุกคน
ซิลิโคนทรงขายาว
เป็นซิลิโคนที่สามารถใช้เสริมได้กับโครงหน้าหลายทรง โดยซิลิโคนชนิดนี้มีลักษณะขาที่ยาว โค้งรับกับกรอบหน้า ที่ครอบคลุมไปถึงบนกระดูกปลายคาง เสริมให้กรอบหน้าดูชัดขึ้น และไม่เป็นรอยต่อระหว่างซิลิโคนกับแก้ม ซึ่งซิลิโคนทรงนี้เป็นทรงที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะเหมาะกับการแก้ปัญหาคางได้กับทุกคน และมีความเนียนมากกว่า
ที่มา : เลือกซิลิโคนเสริมคางแบบไหน ที่เหมาะกับคุณ [2]
เปรียบเทียบ เสริมคาง ด้วยเทคนิคการผ่าตัดแผลนอก vs แผลใน
ในปัจจุบันการทำคางหรือการ เสริมคาง มีเทคนิคการผ่าตัดที่หลากหลาย รวมถึงการเปิดปากแผลสำหรับใส่ซิลิโคนเสริมคางที่มีทางเลือกมากขึ้น ซึ่งไม่ได้มีเพียงการเปิดแผลภายนอก ที่จะอยู่บริเวณใต้คางเพียงอย่างเดียวแล้ว แต่ยังมีการเปิดแผลภายในปาก ที่เป็นทางเลือกใหม่ที่นิยมมากในปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 2 เทคนิค ก็มีทั้งข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกัน
เสริมคางด้วยเทคนิคผ่าตัดแผลนอก
- เป็นการเปิดปากแผลบริเวณใต้คาง ที่จะมีความยาวของการเปิดแผลขนาดประมาณ 1-1.5 เซนติเมตร
- สามารถดูแล และทำความสะอาดแผลได้ง่าย
- ไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นรอยแผลเป็นง่าย เพราะอาจมีรอยแผลเป็น หรือคีลอยด์ที่เห็นได้ชัด
- ไม่ควรให้แผลโดนน้ำประมาณ 7 วัน
เสริมคางด้วยเทคนิคผ่าตัดแผลใน
- เป็นการเปิดแผลภายในปาก บริเวณระหว่างเหงือกกับริมฝีปากล่าง โดยมีความยาวประมาณ 2 เซนติเมตร
- ไม่มีรอยแผลเป็น หรือแผลคีลอยด์
- ดูแล รักษาความสะอาดได้ยาก เนื่องจากมีการเปิดแผลในปาก จึงต้องระวังในเรื่องของเศษอาหารที่อาจไปโดนแผลได้
สรุป เสริมคาง การปรับรูปหน้าให้เรียวงามได้สัดส่วน
การ เสริมคาง เป็นทางเลือกในการปรับรูปหน้าที่นิยมอย่างมาก ด้วยค่านิยมความสวยงามของใบหน้าในปัจจุบัน การมีรูปทรงใบหน้าที่สมส่วน คางสวย กรอบหน้าชัด เป็นอีกหนึ่งความสวยที่เพิ่มความมั่นใจได้อย่างมาก แต่การเสริมคางอาจไม่ใช่การแก้ปัญหาในเรื่องของใบหน้าที่อวบอ้วน หรือหน้าบานที่ตรงจุด ดังนั้นแล้ว ก่อนตัดสินใจเสริมคาง ควรมีการปรึกษาปัญหาของใบหน้ากับแพทย์เพื่อประเมิน และแก้ไขได้อย่างตรงจุด จะถือเป็นผลดีต่อตัวเองมากที่สุด
อ้างอิง
[1] Vsquare. (June 28, 2023). เสริมคาง ควรเลือกแบบไหน ?. Retrieved from vsquareclinic
[2] Vertex Clinic. (December 22, 2021). เลือกซิลิโคนเสริมคางแบบไหน ที่เหมาะกับคุณ. Retrieved from vertexclinic